บทความ:

• ข้อดี: การฉีดฟิลเลอร์ปาก จะเห็นผลที่แตกต่างทันทีหลังฉีดเสร็จ ทั้งนี้ยังมีความปลอดภัยที่ค่อนข้างสูง มีผลข้างเคียงน้อยและดูแลง่าย ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน แถมยังมีราคาถูก เมื่อเทียบกับการทำศัลยกรรมประเภทอื่นๆ
• ข้อเสีย: ระยะเวลาของฟิลเลอร์จะอยู่ได้ไม่นานนัก ซึ่งโดยเฉลี่ยจะอยู่ได้ประมาณ 5–6 เดือนเท่านั้น แต่ในบางรายอาจอยู่ได้นานถึง 1 ปี แตกต่างกันไปตามร่างกายของแต่ละบุคคลค่ะ เหตุนี้จึงต้องมีการฉีดเพิ่มอยู่เสมอ ทำให้ในระยะยาวบางคนอาจมองว่าไม่คุ้ม

โดยปกติอัตราค่าบริการการฉีดฟิลเลอร์ปากจะอยู่ที่ 13,500-20,000 บาท ทั้งนี้อัตราค่าบริการจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ค่ะ ซึ่งช่วงโปรโมชั่นของทางตรีสุรางค์ คลินิกนั้น ค่าบริการจะเหลืออยู่ที่เพียง 9,990 บาท สาวๆ สามารถติดตามโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ

หลังการฉีด บริเวณริมฝีปากอาจมีรอยเข็มเป็นจุดแดงเล็กๆ จากการฉีดฟิลเลอร์ ในบางรายหลังฉีดเสร็จ อาจมีอาการบวมแดงเล็กน้อย แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะอาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปเอง ภายใน 3 – 7 วัน

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรปฏิบัติและเตรียมตัว ดังนี้ค่ะ

• ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรคัดสรรเลือกคลินิกที่เชื่อถือได้และมีรีวิวจริง รวมถึงควรศึกษาข้อมูล ข้อควรรู้ต่างๆก่อนการฉีดฟิลเลอร์ปากด้วย
• หากท่านใดทานวิตามิน ควรงดทาน 1-2 สัปดาห์ก่อนการทำ
• เพื่อรูปทรงที่ดีและเป็นธรรมชาติ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm Volift ที่มีระยะเวลาอยู่ได้ถึง 12 เดือน หรือ ยี่ห้อ Restylane Vital Light ที่มีระยะเวลาอยู่ได้ 4-6 เดือน

ข้อปฏิบัติและการดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดมีดังนี้ค่ะ

• ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และควรงดดื่มเครื่องดื่มร้อน เนื่องจากความร้อนอาจทำให้รูปปากเสียทรงได้
• ควรดื่มน้ำสะอาดมากๆ เฉลี่ยประมาณ 8 – 16 แก้ว/วัน เพื่อให้ฟิลเลอร์ฟู และ อยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น
• หลังการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ควรดึงหรือลอกหนังบริเวณริมฝีปาก

หากท่านใดสนใจ แต่ยังไม่ทราบว่าควรไปฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี ทางเรา ตรีสุรางค์ คลินิก ขอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไว้วางใจได้ให้กับท่าน รับประกันมาตรฐานความปลอดภัย และการันตีฝีมือโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีใบ Certificate รับรองมากมายจากทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังมีรีวิวจริงจากทั้งนางงาม, ดารา, นักร้อง, นักแสดง และเน็ตไอดอล มากกว่า 10,000 รายค่ะ