Call Us: 099-562-4446
Line ID: @treesurang
Follow Us:

บริการ:

ปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย

ร้อยไหมจมูก

ร้อยไหมจมูก จะช่วยให้จมูกโด่งเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องกังวลว่าจะทะลุ เบี้ยว เอียง เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ชอบการผ่าตัดศัลยกรรม และ เนื้อจมูกน้อย การร้อยไหมจมูกจะทำให้มีเนื้อจมูกขึ้นมา

ร้อยไหมจมูก ส่วนไหนได้บ้าง?

สามารถร้อยได้หลายจุด เพื่อแก้ปัญหาตามจุดต่างๆ เช่น สันจมูก ปลายจมูก เก็บปีกจมูก

ร้อยไหม เก็บปีกจมูก ได้จริงไหม?

สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องปีกจมูกบาน ปีกจมูกกว้าง หรือไม่ได้รูป สามารถแก้ไขได้โดยแพทย์จะทำการร้อยไหมเก็บปีกจมูก ให้ฐานจมูกเล็กลง เข้ารูปเหมาะกับรูปหน้า

ร้อยไหมจมูกอยู่ได้นานกี่เดือน?

ร้อยไหมจมูกอยู่ได้นาน ประมาณ 1 ปี – 1 ปี ครึ่ง


ร้อยไหมหน้า

ร้อยไหมหน้า คือ การเสริมความงามอย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้ใบหน้ายกกระชับ หน้าเรียว และกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในแวดวงความงาม เพราะนอกจากการร้อยไหม จะทำให้ยกกระชับ และ ใบหน้าเรียวขึ้นได้แล้ว ยังช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงได้ ซึ่งการร้อยไหมมีเทคนิคต่างๆ และ มีไหมหลายชนิด ดังนั้นควรพบแพทย์เพื่อประเมินก่อนตัดสินใจ

อายุเท่าไหร่ ร้อยไหมได้บ้าง?

สามารถร้อยไหม ได้ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่า ผู้ชาย หรือ ผู้หญิง และไม่จำกัดช่วงอายุ และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง หรือ ต้องการที่จะปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับได้รูป

ไหมมีกี่ชนิด?

ไหมมีหลายชนิด เช่น ไหมก้างปลา ไหมล็อค ไหมสปริง ไหม PDO ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกไหมที่เหมาะสมกับรูปหน้าของแต่ละบุคคล

ถ้าต้องการยกกระชับควรร้อยไหมอะไร?

ยกกระชับใบหน้าสำหรับผู้ที่อายุยังไม่มากนัก จะแนะนำเป็นไหมเส้นเล็ก หรือ ไหมก้างปลา สามารถช่วยยกกระชับใบหน้า และเก็บกรอบหน้าได้ดี และช่วยใบหน้าเรียว และ สำหรับผู้ที่อายุมาก แนะนำเป็นไหมเส้นใหญ่ หรือ ไหมล็อค จะช่วยยกกระชับใบหน้าได้ดี และ ช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย

ไหมสปริง ช่วยเรื่องอะไร?

ไหมสปริง สามารถร้อยเก็บเหนียง กระชับแก้ม ยกคิ้ว ยกหางตา ยกมุมปาก และเติมร่องแก้มให้ดูตื้นขึ้นได้ และสามารถร้อยเก็บกรอบหน้าให้ดู คม ชัด และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวหน้าได้ดี

ไหม PDO ช่วยเรื่องอะไร?

เทคนิคการร้อยไหม เป็นการฟื้นฟูใบหน้า และ ทำการยกกระชับผิวหน้า ด้วยการร้อยไหมชนิดละลายได้ หรือ PDO ย่อมาจาก Polydioxolane ซึ่งแต่เดิมเทคนิคนี้เป็นเทคนิคจากประเทศเกาหลี โดยไหมชนิดละลายได้ที่ใช้กันในเทคนิคศัลยกรรมใบหน้า แต่เดิมแล้วคือไหมที่ใช้เย็บบริเวณเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และ ใช้สำหรับเย็บเส้นเลือดต่างๆ ในร่างกาย จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปร่างกายจะทำการกำจัดออกได้เอง โดยใช้เวลาประมาณ 6 เดือน สิ่งที่สำคัญและทำให้เกิดเทคนิคการร้อยไหมในวงการเสริมความงามคือ บริเวณที่มีการร้อยไหม จะเกิดการกระตุ้นการสร้างเซลล์เส้นใยคอลลาเจน ในขณะที่มีการสร้างเส้นเลือดใหม่ เส้นใยคอลลาเจนนี้จะมาเกาะบริเวณรอบ ๆ แนวเส้นไหม ทำให้เกิดการตึงรั้งผิวบริเวณนั้นๆ ช่วยยกกระชับผิว แถมยังมีผลดีกับการไหลเวียนของเลือดในบริเวณดังกล่าวอีกด้วย เลยทำให้เทคนิคนี้ถูกนำไปใช้กับการฟื้นฟูใบหน้า และ ยกกระชับผิวตามจุดต่างๆ ได้อย่างดีทีเดียว

หลังร้อยไหม นานแค่ไหนจึงจะเริ่มเห็นผลชัดเจน?

หลังจากการร้อยไหมแล้ว เราจะรู้สึกและเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างทันทีเลย และจะยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาประมาณ 1 – 2 เดือน เท่านั้น โดยประสิทธิภาพการฟื้นฟูใบหน้า ยกกระชับผิวจะส่งผลให้เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด คือหลังจากเข้ารับการร้อยไหมไปแล้ว 6 เดือน ในส่วนของการดูแลรักษาความคงทนของสภาพใบหน้าหลังจากการร้อยไหมนั้น ขึ้นอยู่กับเทคนิคคุณหมอและสภาพผิวของแต่บุคคลนะคะ โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี


ลดริ้วรอย

“การฉีดลดริ้วรอย” ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน การฉีดลดริ้วรอยเป็นวิธีที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น และปรับรูปหน้า ที่ได้ผลชัดเจน ใช้เวลาไม่นาน การใช้ลดริ้วรอยภายใต้การดูแลของแพทย์ ในปริมาณที่เหมาะสม จะมีความปลอดภัย คนไข้ที่สนใจการฉีดลดริ้วรอยควรทำความเข้าใจ เรื่องการฉีดลดริ้วรอยและปรึกษาแพทย์ เพื่อศึกษารายละเอียดของลดริ้วรอยก่อนการฉีด

ลดริ้วรอย สามารถฉีดตรงไหนได้บ้าง?

ลดริ้วรอยหน้าผาก หางตา หว่างคิ้ว ลดกราม โหนกแก้ม ริ้วรอยจุดต่างๆ น่อง รักแร้ เป็นต้น

ลดริ้วรอย นานไหมกว่าจะเห็นผล?

เริ่มเห็นผลช่วง 2 สัปดาห์แรก และเห็นผลเต็มที่ช่วง 6-8 สัปดาห์

ฉีดลดกราม หน้าเรียว ต้องใช้กี่ยูนิต?

ลดกราม หน้าเรียว ไม่ได้ต้องจำเป็นต้องใช้ปริมาณเยอะอย่างที่หลาย ๆ คนคิด การฉีดลดกราม หน้าเรียว ขึ้นอยู่กับใบหน้าของแต่ละบุคคล บางรายอาจไม่จำเป็นต้องใช้ถึงขนาด 100 ยูนิต ถ้ากล้ามเนื้อบริเวณกรามไม่เยอะมาก แต่ถ้ามีกล้ามเนื้อกรามเยอะ ก็อาจจะต้องใช้ถึง 100 ยูนิตหรือมากกว่านั้น ซึ่งปริมาณการฉีดแพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์รูปหน้าก่อน แล้วทำการวางแผนกำหนดยูนิตในการฉีด ในบางรายที่กลัวว่าจะฉีดน้อยเกินไป ต้องบอกว่าการฉีดจำนวนยูนิตที่มาก อาจจะไม่ได้ส่งผลให้เกิดผลดีเสมอไป ถ้าฉีดมากเกินไปบางครั้งอาจจะทำให้หน้าตอบเกินไป ดูไม่ดี บางครั้งอาจจะยิ้มไม่สุดได้เช่นกัน

ฉีดลดริ้วรอยบนใบหน้า บริเวณไหนได้บ้าง?

ส่วนใหญ่จะฉีดบริเวณที่มีริ้วรอยที่เห็นชัดเจน เช่น หางตา หว่างคิ้ว และ หน้าผาก เป็นต้น

ข้อห้ามหลังฉีดลดริ้วรอย
  • ควรหลีกเลี่ยงการนอนราบ หลังจากฉีด ประมาณ 4 ชั่วโมง
  • งดการนวดหน้า อบซาวน่า หรือการกดจุดบนใบหน้า ประมาณ 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น บริเวณที่ฉีด ประมาณ 2 สัปดาห์
  • กรณีฉีดลดกรามหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่มีเนื้อแข็งๆ หรือเหนียวๆ ที่เคี้ยวยาก เช่น น้ำแข็ง ซี่โครง กระดูกอ่อน ข้าวเหนียว หมากฝรั่ง เป็นต้น การเคี้ยวสิ่งเหล่านี้มากๆ จะเสมือนเป็นการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามเกิดการทำงานมากขึ้น ทำให้มีโอกาสกลับมามีขนาดใหญ่เหมือนเดิมได้อีก
  • งดของแสลง ของหมักดอง ปลาร้า เป็นต้น
  • งดดื่มแอลกฮอลล์ 1 วัน หลังจากการฉีด
  • หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนบริเวณใบหน้า เช่น การใช้แสงเลเซอร์ และคลื่นไฟฟ้า ประมาณ 1 สัปดาห์

Filler

ฟิลเลอร์ ( Filler ) คือ เทคนิคการฉีดเติมเต็มผิว ด้วยสารไฮยาลูโรนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid ) หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า HA เพื่อเติมเต็มหรือเสริมในชั้นผิวหนังหรือใต้ผิวหนัง จะช่วยความสามารถการกักเก็บน้ำให้แก่ชั้นใต้ผิวในจุดที่ต้องการได้รับการแก้ไข เพื่อเติมเต็มช่องว่างให้กับเซลล์ผิวหนัง ให้ผิวยืดหยุ่น เพิ่มความเต่งตึงเนียนเรียบปราศจากริ้วรอยให้แก่ผิว ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ฟิลเลอร์ในส่วนที่เป็นริ้วรอยร่องลึกที่เกิดขึ้นตามจุดต่าง ๆ บนใบหน้าให้แลดูตื้นขึ้น และเป็นการเติมใยคอลลาเจนที่หายไปให้กลับมาดูอิ่มเอิบ

ส่งผลให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์กว่าวัยได้อย่างชัดเจนและฟิลเลอร์สามารถสลายตัวไปได้เองตามธรรมชาติ อีกทั้งยังสามารถนำ ” ฟิลเลอร์ ” มาช่วยในการแก้ไขและปรับแต่งรูปหน้าได้อีกด้วย เช่น ฉีดเพื่อเติมเต็มริมฝีปาก หรือ ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มให้ตื้นขึ้น

Filler สามารถฉีดจุดไหนได้บ้าง?

เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็ม สามารถฉีดได้ในจุดต่างๆ เช่น ร่องลึกใต้ตา ร่องแก้ม จมูก ขมับ แก้ม ปาก คาง แก้มตอบ หน้าผาก และ อื่นๆ

Filler อยู่ได้นานแค่ไหน?

โดยปกติฟิลเลอร์ทั่วไป สามารถอยู่ได้ประมาณ 12 – 15 เดือน

Filler แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร?

ต่างกันที่ประเทศที่ผลิต แต่ในด้านคุณภาพ ฟิลเลอร์ที่ ตรีสุรางค์คลินิก เลือกใช้ จะเน้นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยเหมือนกันทุกยี่ห้อ ที่ตรีสุรางค์คลินิก จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐาน อย. และ FDA เท่านั้น

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ Filler

ก่อนเติมฟิลเลอร์แนะนำให้สำรวจตัวเองก่อนว่ามีโรคประจำตัว เป็นผู้ที่มีประวัติเป็นภูมิแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis) เป็นผู้ที่มีปัญหาเลือดออกง่าย เป็นผู้มีประวัติแพ้ยาชา หรือทานยาละลายลิ่มเลือดมาก่อนหรือเปล่า เช่น ยาแอสไพริน, ยาคูมา ฯลฯ  สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร ไม่ควรเติมฟิลเลอร์พยายามหลีกเลี่ยงไปเลยค่ะ และที่สำคัญควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย มีแพทยท์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ถ้าไม่เช่นนั้นการเติมฟิลเลอร์จากที่คิดว่าจสวยอาจกลายเป็นพังก็ได้จ้า

หลังทำฟิลเลอร์? 
  • ใน 48 ชั่วโมงหรือ 2 วันแรก ขอแนะนำว่ายังไม่ควรออกกำลังกายหนักๆ หรือไปตากแดดร้อนๆ เพราะอาจทำให้เกิดรอยแดงไดในบริเวณที่เติมฟิลเลอร์ไป และไม่ควรจับ ลูบคลำ นวด คลึง ในบริเวณนั้น เพราะอาจมีผลต่อการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยาไปยังตำแหน่งที่ได้
  • ควรดื่มน้ำในปริมาณที่มากโดยเฉพาะ 4 วันแรก หลังเติมฟิลเลอร์ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำนั้นจะช่วยทำให้การเติมเต็มอยู่ได้นานขึ้น เพราะฉะนั้นต้องดื่มน้ำประมาณ 8-10 แก้ว หรือปริมาณ 2 ต่อวัน จะช่วยทำให้การเติมฟิลเลอร์ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นจ้า
  • งดทานยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดออก เช่น แอสไพริน Vitamin E, ใบแป๊ะก๊วย หลีกเลี่ยงการใช้สารที่มีส่วนผสมของ BHA,AHA และ Retinoid 2 สัปดาห์ภายใน 2 สัปดาห์แรก
  • ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นบริเวณที่เติม งดเข้าอบไอน้ำ อบซาวน่า ทำเลเซอร์ ทำ RF หรือ Ionto เพราะความร้อนเฉพาะจุดเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อฟิลเลอร์ได้ใน 2 สัปดาห์แรก ความร้อนที่สามารถโดนได้คือ ไดร์เป่าผม และแสงแดดที่ไม่แรงจ้าเกินไปได้ หลังจาก 2 สัปดาห์ขึ้นไปก็สามารถใช้ชีวิตได้ปกติตามเดิมค่ะ
  • ใน 2 วันหลังเติมฟิลเลอร์ ต้องหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอร์ การสูบบุหรี่, การดูด การจูบ (กรณีที่ฉีดที่ริมฝีปาก)
  • ในสัปดาห์แรก สามารถทาแป้ง,แต่งหน้าได้ตามปกติค่ะ

HIFU

HIFU หรือ High Intensity Focus Ultrasound เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง โดยส่งเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ทำให้ผิวหนังในชั้น SMAS หดตัว คล้ายกับการเย็บที่เนื้อ เพื่อทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนหรือสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ซึ่งเป็นการดึงหน้าที่ส่งผลให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์มากขึ้น

ทั้งนี้จำนวนครั้งของการทำ HIFU ในแต่ละคนจะไม่เท่ากัน โดยขึ้นอยู่กับปัญหาของรูปหน้าแต่ละคน ซึ่งควรจะต้องทำอย่างต่อเนื่องจึงจะแก้ปัญหาได้และเห็นผลชัดเจน ใช้เวลาการทำประมาณ 30 – 50 นาที อีกทั้งจะเว้นระยะห่างจากการทำครั้งแรก 2 เดือน

HIFU เหมาะกับใครบ้าง?

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 25 – 35 ปี ซึ่งมีปัญหาหนังตาตก ผิวหน้าหย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอยมาก อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด รวมถึงการยกกระชับใบหน้าหรือยกแนวคิ้วให้ขึ้น และผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย ลดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง ลดเหนียงใต้คางหรือลดคางสองชั้น

โดยเนื้อเยื่อจะเกิดขึ้นใหม่หรือเห็นผลชัดเจนดังกล่าว และผิวจะมีความเรียบเนียนขึ้นตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป เมื่อทำแล้วจะคงสภาพอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นไป ซึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหลังการใช้บริการและสภาพผิวของแต่ละคนอีกด้วย

ข้อดีของการทำ HIFU

เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยน้อยๆ อีกทั้งราคายังไม่แพงมาก ทำได้บ่อยครั้งและหลังการทำ HIFU ยังสามารถทำการรักษาอย่างอื่นอีกได้ ผู้ที่ทำ HIFU จะรู้สึกอุ่นๆ บนผิวขณะทำ ผิวจะไม่แสบร้อนและไม่ต้องใช้ยาชา เพราะเป็นคลื่นที่มีความถี่สูงถึง 10,000 ครั้งต่อวินาที ทำให้ผู้ที่เข้ารับการบริการไม่รู้สึกเจ็บหลังจากการทำ และสามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เนื่องจากไม่มีบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้นนั่นเอง

วิธีการดูแลตัวเองหลังการทำ HIFU

ควรใช้ครีมบำรุงผิวเพื่อบำรุงผิวที่เกิดขึ้นใหม่ให้คงอยู่ได้อย่างยาวนาน ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ แล้วหลีกเลี่ยงแสงแดด หากมีอาการเมื่อยหรือตึงผิวก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ นอกจากนี้ไม่ควรนวดหรือถูใบหน้าแรงๆ รวมทั้งไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง


ตรีสุรางค์ คลินิก

“ตรีสุรางค์คลินิก สวย สั่ง ได้ ตามใจคุณ”

ติดต่อเรา
  • Phone: 099-562-4446 : มหาชัย
  • Phone: 064-451-4664 : ลาดพร้าว 62
  • Email: treesurang034440243@gmail.com
  • สาขามหาชัย : 11.00 - 20.00 น. หยุดวันพุธ
    สาขาราชบุรี : 12.00 - 20.30 น. หยุดวันอังคาร
    สาขาลาดพร้าว62 : 12.00 - 20.00 น. หยุดวันจันทร์
ส่งข้อความหาเรา

Copyright © 2024 Treesurang Clinic. All right reserved.